วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

สิ่งที่ไม่นิยมทำในเวลากินอาหาร


สิ่งที่ชาวเกาหลีไม่นิยมทำขณะรับประทานอาหาเกาหลี
1.ปักตะเกียบไว้ในชามข้าวเพราะถือว่าเป็นการ
เซ่นไหว้คนตาย ( ใครอย่าเผลอไปทำเชียวละครับ = =") 
2.ชาวเกาหลีไม่นิยมยกจานหรือชามขึ้นมาขณะรับประทาน
อาหาร แต่จะนิยมใช้เป็นจานเล็กๆส่วนตัวแทน 
3.การพูดคุยระหว่างทานอาหารที่บ่อยเกินไป
เป็นการเสียมารยาทแต่ปัจจุบันไม่เคร่งครัดเท่าไรนัก
4. คนเกาหลีไม่ค่อยนิยมแชร์ค่าอาหารกัน ยกเว้นบางกรณี คุณควรเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเป็นเจ้าภาพหรือไม่
ก็เป็นแขก อันนี้ก็เปลี่ยนไปแล้วเหมือนกันครับ 
5.การสั่งน้ำมูกระหว่างที่ทานอาหารเกาหลี ถือว่าไม่สุภาพ
6.ในระหว่างที่ผู้ใหญ่หรือผู้อาวุโสกำลังรับประทานอาหารอยู่
ไม่ควรลุกออกจากโต๊ะ 
7.ไม่ควรรินเครื่องดื่มให้ผู้อื่นในขณะที่ยังทานไม่หมดแก้ว

วัฒนธรรมการกินของคนเกาหลี

สิ่งที่ชาวเกาหลีนิยมทำขณะรับประทานอาหารเกาหลี
1.ชาวเกาหลีนิยมทานอาหารเกาหลีโดยใช้ตะเกียบโลหะ(ชอซการัก)กับช้อนยาวโดยใช้ช้อนรับประทานข้าว
ซุป และสตูว์และใช้ตะเกียบคีปเครื่องเคียงแบบอาหารแห้งหรือดอง แต่จะไม่นิยมใช้ช้อนและตะเกียบพร้อมกัน
2. การทานอาหารเกาหลี เสียงดังถือเป็นเรื่องปกติมาก
สำหรับคนเกาหลี ยิ่งการเคี้ยวอาหารเสียงดังๆมาก แสดงให้รู้ว่าอาหารเกาหลีมีความอร่อยมากแค่ไหน
(Mr.GoEasyHolidayคิดว่าน่าจะคล้ายกับวัฒนธรรมจีนและญี่ปุ่น)

3.เมื่อทานอาหารเกาหลีเสร็จควรวางช้อนและตะเกียบลงบนโต๊ะ 
ไม่นิยมวางไว้บนจานหรือชามอาหาร
4.พ่อครัวแม่ครัวอาหารเกาหลีจะยินดีรับคำติ-ชมเกี่ยวกับรสชาติอาหารและบริการ 
คงเคยเห็นแล้วจากภาพยนต์เรื่อง กวน มึนโฮ "รสชาติเยี่ยมมากๆ"

5.ควรรอให้ผู้อาวุโสที่สุดเป็นฝ่ายบอกเริ่มการรับประทานอาหาร
ก่อนเสมอ
6.ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดต้องเป็นคนรินเครื่องดื่มให้ผู้อาวุโสกว่า
เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและต้องรินด้วยสองมือ 
เมื่อมีคนรินเครื่องดื่มให้ก็ควรรินกลับเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ


ของกินข้างทางที่ไม่ควรพลาด (เกาหลี)

ผลไม้เสียบไม้ เดินกินของคาวของหวานมาตลอดทางแล้ว ตบท้ายด้วยผลไม้สดๆ หวานๆ ล้างปากกันหน่อยดีมั้ยคะ เมล่อน (멜론) และ แตงโม (수박) เสียบไม้ ที่ตลาดนัมแดมุน (ไม่เคยเห็นมีขายที่อื่นเหมือนกันนะ) นี่คือของอร่อยที่มินต้องกลับไปกินทุกครั้งที่ไป เพราะผลไม้มันสดและหวานดีจริงๆ คุณป้าคนขายจะปอกผลไม้แล้วเสียบไม้วางขายเดี๋ยวนั้นเลย เมล่อนหอมหวานอร่อย กัดทีน้ำกระจาย ชุ่มฉ่ำมากๆ ส่วนแตงโมพอได้ลองแล้วลืมแตงโมบ้านเราไปเสียสิ้น เพราะมันหวานอร่อยกว่ามาก เนื้อสัมผัสต่างกัน แม้ว่าสีจะดูจืดชืดกว่า แต่รสชาติหวานได้ใจดีจริงๆ เลยค่ะ และยังมีสับปะรดเสียบไม้ด้วยนะ แต่มินไม่เคยลอง ไว้ครั้งหน้าจะไปลองดูบ้าง ส่วนราคาเมล่อน 1500 วอน แตงโม 1000 วอนค่ะ


ของกินข้างทางที่ไม่เคยพลาด (เกาหลี)

มันฝรั่งเกลียว (키다리 감자) นี่คือเมนูของกินเล่นข้างทางที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของมยองดง (รองจากไอศกรีมยาวๆ) ต้องบอกว่ามันไม่ใช่มันฝรั่งทอดอย่างที่เราคุ้นเคย แต่มันมีรสชาติที่ล้ำลึกกินแล้วติดใจจริงๆ ขนาดที่ไทยเราก็มีคนทำขายมากมาย แต่กินยังไงก็ไม่ฟินไม่อร่อยเท่าที่เกาหลี และมินไม่เคยพลาดสิ่งนี้ทุกครั้งที่มามยองดงค่ะ แม้ว่าที่ฮงแดก็จะมีขายก็ตาม แต่แอบติดใจร้านคุณลุงคุณป้าที่มยองดง หน้าร้านคอนเวิร์สซะอย่างนั้น มันฝรั่งสดๆ นำมาทอดกรอบแล้วโรยผงชีส จุดขายอยู่ที่การพันเป็นเกลียวสูงๆ แต่จุดเด่นอยู่ที่รสชาติจริงๆ อันนี้คอนเฟิร์ม แต่ถ้าใครไปซื้อกินช่วงหน้าหนาวหรืออากาศเย็นๆ ต้องรีบกินหน่อยนะคะ เพราะถ้ายืนหรือเดินกินนานๆ มันโต้ลมหนาวแล้วมันฝรั่งจะนิ่มเร็วไม่กรอบอร่อย แนะนำให้กินกับเพื่อนแล้วแย่งกันฉีกกินค่ะ อิอิ ราคาก็ไม้ละ 2000 วอน

ของกินข้างทางที่ไม่ควรพลาด (เกาหลี)


Waffle (와플) อีกหนึ่งขนมที่ไม่เอ่ยถึงก็คงจะไม่ได้ หากคุณมาเที่ยวเกาหลี แล้วไม่ได้ลิ้มลองขนมสุดฮิตอย่างวาฟเฟิลแล้วล่ะก็ แปลว่าคุณมาไม่ถึงแล้วล่ะ! เพราะวาฟเฟิลที่เกาหลีมีขายมากมาย และมีทั้งแบบอเมริกันวาฟเฟิล และเบลเยี่ยมวาฟเฟิล แต่ถ้าเป็นขนมข้างทางแล้วล่ะก็ เราจะเจอแต่อเมริกันวาฟเฟิลเท่านั้น ส่วนเบลเยี่ยมวาฟเฟิลหากินได้ตามร้านขนมและร้านกาแฟทั่วไปค่ะ ซึ่งวาฟเฟิลนี้หาซื้อได้ง่ายมากแม้แต่ในสถานีรถไฟใต้ดินก็มี ราคาแล้วแต่ร้านจะอยู่ที่ 1000-1500 วอน และมีแบบใส่ไอศกรีม กับแบบใส่วิปครีมราดด้วยไซรัป มินลองทั้งสองแบบ ชอบทั้งสองแบบเลยค่ะ แม้ว่าจะเป็นวาฟเฟิลที่แป้งธรรมดา คงเทียบไม่ได้กับในร้านกาแฟที่ราคาแพงกว่ามาก (จานนึงไม่ต่ำกว่า 5000 วอน) แต่ก็กินได้เพลินๆ แถมถูกดีด้วย มินจะชอบร้านประจำที่ฮงแดเป็นพิเศษ (ร้านอยู่ตรงข้ามประตูม.ฮงงิก) เพราะอร่อยและถูกกว่าที่อื่น คือ 1000 วอนเท่านั้น ขายมาหลายปีไม่เคยขึ้นราคาเลยค่ะ ไปกี่ครั้งๆ ก็ยัง 1000 วอนอยู่ดี แต่คนจะซื้อกินเยอะมาก ถ้าอยากไปลองต้องไปตอนเย็นๆ ค่ำๆ เท่านั้นนะ เพราะร้านยังไม่เปิดค่ะ


ของกินข้างทางที่ไม่ควรพลาด

โฮต็อก (호떡) ขนมพื้นเมืองของเกาหลี ทำจากแป้งเหมือนแพนเค้ก ข้างในเป็นไส้หวานๆ เป็นการผสมกันของน้ำตาล น้ำผึ้ง ถั่วลิสง และอบเชย ทอดบนกระทะแบนๆ มีสองแบบด้วยกัน แบบแรกจะเป็นแป้งแผ่นบางกรอบซึ่งแบบนี้ดั้งเดิมมาจากประเทศจีนค่ะ เพื่อนเกาหลีมินบอกว่าแบบนี้เขาเรียกว่าโฮต็อกแบบไชนีสสไตล์ ส่วนอีกแบบเป็นแป้งหนาๆ นุ่มๆ เคี้ยวได้สัมผัสกว่า แบบนี้คือ โคเรียนสไตล์ หรือโฮต็อกแบบเกาหลีแท้ค่ะ สำหรับมินน่ะเหรอ ชอบทั้งสองแบบเลยค่ะ ^^ ส่วนราคาถ้าในโซลก็ชิ้นละ 1000 วอน ส่วนที่ปูซานมินเจอแบบไชนีสสไตล์ 500 วอนเท่านั้นเอง



ของกินข้างทางที่ไม่ควรพลาด (เกาหลี)

บุงงอปัง (붕어빵), ตงปัง (똥빵) ทั้งสองอย่างนี้เหมือนกัน เพราะมันคือ ขนมปังไส้ถั่วแดงค่ะ แบบดั้งเดิมก็คือบุงงอปังที่มีรูปร่างเป็นปลา (บุงงอ แปลว่าปลาตะเพียน) แบบนี้หากินได้ทั่วไปเลยล่ะ แถมบางร้านมีแบบไส้ครีมคัสตาร์ดด้วย ส่วนอีกแบบคือตงปัง ที่มีรูปเป็นอุนจิสุดเก๋ (ตง แปลว่า อุนจิ) ตงปังนั้นมินไม่เคยเจอขายอยู่ที่ไหนนอกจากที่ตึกซัมชีกิล อินซาดง ร้านยอดนิยมที่ใครไปใครมาต้องแวะซื้อนั่นแหละค่ะ สำหรับบุงงอปังนั้น ปัจจุบันตามร้านรถเข็นจะไม่ค่อยมีแบบตัวใหญ่ๆ ขายแล้ว แต่จะออกลูกหลานเป็นปลาตะเพียนตัวเล็กแทน และมักจะขายในราคา 3 ตัว 1000 วอน ส่วนตงปังก็ขายชิ้นละ 1000 วอนค่ะ สำหรับขนมชนิดนี้ มินแนะนำว่าให้กินทันทีเลยนะ เพราะถ้ามันเย็นชืดไม่ร้อนแล้ว มันจะไม่อร่อยอย่างแรง บุงงอปังนั้น รสชาติแล้วแต่ร้านค่ะ บางร้านก็ดี บางร้านก็แย่ ส่วนตงปังบอกตรงๆ เลยว่า ไม่อร่อยเลยยย (แอบผิดหวัง) แต่ถ้าอยากลองเพราะรูปลักษณ์แสนเก๋ ก็ไปลองกันค่ะ เพราะราคาไม่แพง ถ้าไม่อร่อยถูกปาก ก็ไม่เสียดายตังเท่าไหร่เนอะ


ของกินข้างทางที่ไม่ควรพลาด (เกาหลี)

คเยรันปัง (계란빵) ย้ายมาดูกันที่ขนมกันบ้าง ขนมปังไข่อันนี้ หากินได้ทั่วไปเลยค่ะ มีขายตลอดข้างทางทุกย่านเลย เราจะพบเจอร้านรถเข็นเล็กๆ ที่ขายขนมปังไข่มากมาย หากินง่ายมากๆ และแนะนำแรงๆ ว่า ต้องลอง! เพราะมันอร่อยมากจริงๆ ค่ะ เป็นขนมสุดโปรดของมินกับเพื่อนเลย ไปเกาหลีทีไร กินกันแทบทุกวัน ขนมปังไข่จะมีสองแบบค่ะ คือแบบที่ไข่ด้านในสุกจนเป็นไข่ต้ม กับแบบที่เป็นไข่ดาว มินชอบแบบไข่ดาวมากกว่าค่ะ เพราะชอบกินไข่แดงไม่สุก แถมกินแล้วไม่ฝืดคอแบบไข่ต้มด้วยล่ะ ราคาเท่ากัน อันละ 1000 วอน


ของกินข้างทางที่ไม่ควรพลาด (เกาหลี)

ทัคโกกิ (닭고기) เผื่อใครเบื่อไส้กรอกแล้ว หรือกินหมูไม่ได้ ก็อย่าน้อยใจไปค่ะ ลองเมนูนี้บ้างเป็นไง ไก่ย่างบาร์บีคิวนั่นเอง เมนูนี้มินขอยกให้เป็นเมนูข้างทาง (ของคาว) อันดับ 1 ในใจเลยล่ะ เพราะส่วนตัวชอบกินไก่มากๆ อยู่แล้ว พอมาเจอเนื้อไก่ตรงส่วนสะโพกติดหนัง ปรุงรส แล้วย่างหอมๆ พอสุกแล้วก็โรยเกลือเป็นแบบธรรมดา หรือจะราดซอสบาร์บีคิวเป็นแบบเผ็ดหรือแบบหวาน กินแกล้มกับต้นหอมที่ย่างคู่กันก็ฟินนนนน ไม่ต่างกันเลย มินตระเวณกินเมนูนี้หลายย่านมากๆ ค่ะ เรียกได้ว่าไปย่านไหน หรือเดินอยู่ที่ไหนแล้วเจอ เป็นอันต้องหยุดแวะซื้อกินทุกที (อดใจไม่ไหว 55555) บางร้านก็รสชาติกลางๆ ค่ะ คือไม่ดีไม่แย่ แต่บางร้านนี่หมักเนื้อไก่ได้เด็ดมากๆ อร่อยนุ่มสุดยอดดดดด ยิ่งเจอกับซอสสูตรเฉพาะของร้านด้วยแล้วอร่อยเหาะไปเลย (คงอารมณ์แบบร้านขายลูกชิ้นปิ้งบ้านเรา ที่มีทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้ม) อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหน ต้องไปลองกันเองแล้วล่ะ ส่วนราคาก็ไม้ละ 2000-2500 วอน


ของกินข้างทางที่ไม่ควรพลาด (เกาหลี)

ต็อกคัลบี (떡갈비) เมนูนี้ เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารข้างทางที่มยองดงค่ะ เพราะมีหลายร้านมากๆ และก็มีคนมุงซื้อมากมาย แต่ก็ใช่ว่าหากินที่นี่ได้ที่เดียวนะคะ เพราะมินเจอที่ฮงแดด้วยเช่นกัน มันคือแป้งต็อกเสียบไม้กับไส้กรอกแล้วย่าง ใช่แล้วค่ะ มันมีไส้กรอกอีกแล้ว >.< แต่มันอร่อยมากๆ ตรงแป้งต็อกนี่แหละ พอมันเอาไปย่างแล้วกินคู่กับไส้กรอกที่ปรุงรสมาแล้วนั้น แหม....อร่อยลืมโลกเลยค่ะ อร่อยจนมินก็ไปมยองดงหลายรอบ เพื่อสิ่งนี้! เพราะติดใจจริงๆ ค่ะ ราคาก็ 3000 วอน ค่อนข้างแพงนิดนึง (เกือบร้อยบาท!)


ของกินข้างทางที่เกาหลี ไม่ควรพลาด

Sausage (소시지) มากันที่ไส้กรอกแบบธรรมดากันบ้าง ต้องบอกว่าถ้าเป็นไส้กรอกล้วนๆ แบบนี้แล้วนั้น ไม่ว่าจะกินที่ไหน ย่านไหน ก็อร่อยไปทุกที่เลยล่ะค่ะ ไส้กรอกที่เกาหลีเขาอร่อยดีนะคะมินว่า ไม่ว่าจะในร้านสะดวกซื้อ หรือในเมนูในร้านอาหาร ส่วนแบบข้างทางโดยเฉพาะที่ฮงแดตอนกลางคืนนั้น อร่อยเป็นพิเศษเลย จะกินแบบรสธรรมดาไม่เผ็ด หรือแบบเผ็ดสไปซี่สุดๆ ก็ได้ ราคาไม้ละ 2000 วอนค่ะ


ของกินข้างทางที่เกาหลี ไม่ควรพลาด

Hot Dog (핫도그) นี่คือเมนูแรกที่มินอยากจะแนะนำ มันคือฮ็อตด็อกที่ชุบเกล็ดขนมปังทอด กินกับซอสมะเขือเทศ (ที่เกาหลีจะเรียกทับศัพท์เลยว่า ketchup) ที่มินเจอมาจะมีสองแบบคือ ชุบเกล็ดขนมปังอย่างเดียว กับแบบมีมันฝรั่งแท่งด้วย ก็อร่อยทั้งสองแบบค่ะ แต่ไส้กรอกด้านในจะธรรมดา ประมาณว่าใช้ไส้กรอกถูกๆ หน่อย แต่แป้งด้านนอกกับขนมปัง ก็ทำให้ฟินดีนะคะ กินเล่นๆ แต่อิ่มจริง ราคาไม้ละ 2000-3000 วอน



วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

Top 10 ดาราเกาหลีที่หล่อที่สุด


รวมหนุ่มเกาหลีหล่อ แซ่บบบ ยิ้ยิ้

คิมซูฮยอน (Kim Soo Hyun)


วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “โทเมเนเจอร์” มนุษย์ต่างดาวสุดหล่อที่ทำให้สาวชาวโลกต้องจิกหมอนนอนกรี๊ดกันจวนเจียนคลั่งจากซีรีส์เรื่อง “You Who Came from the Star” ที่ก่อให้เกิดกระแสคลั่งไคล้ “โทเมเนเจอร์” ไปทั่วทั้งภูมิภาค จนคิมซูฮยอนต้องเดินสายไปพบปะแฟนละครในหลายประเทศรวมถึงเมืองไทยที่ทำเอาสนามบินแทบแตก เดิมทีซูฮยอนแจ้งเกิดจากละครวัยรุ่นเรื่อง “Dream High” ต่อด้วย “The Moon Who Embraces the Sun” ซีรีย์ที่ทำเรทติ้งสูงสุดในเกาหลี ก่อนจะมาทุบสถิติเรตติ้งทะลุเป้าอีกครั้งกับซีรีส์มนุษย์ต่างดาวที่ว่าส่งให้เขาขึ้นแท่นเป็นนักแสดงนำแถวหน้า ที่ ณ วันนี้ ต้องเรียกว่าดังสุดๆ เป็นเจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์โฆษณาชนิดที่ว่ามองไปทางไหนก็จะเห็นป้ายโฆษณาเป็นหน้าเขาชวนให้เพ้ออยู่ร่ำไป
ลีมินโฮ (Lee Min Ho)

ปลายปีที่แล้ว “คุณชายคิมทัน” จากซีรีส์เรื่องดัง “Heirs” ทำเอาสาวๆ เพ้อกันตั้งแต่เกาหลียันเมืองไทย จนทำให้มินโฮกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของเอเชียไปแล้ว ทั้งยังกอบโกยรางวัลนักแสดงนำจากละครหลายเรื่องติดกันหลายปี ทุกวันนี้เขารับละครได้แค่ปีละเรื่อง เพราะต้องแบ่งเวลาไปเดินสายงานอีเวนท์และงานโฆษณาที่ประดังเข้ามา เราจึงได้เห็นเขาแว้บๆ ในโฆษณาครีมอาบน้ำประกบอั้ม-พัชราภา มินโฮเริ่มโด่งดังจากละครเรื่อง “Boys over Flowers” หนึ่งใน F4 ที่หล่อทะลุจอ แล้วมาดังต่อด้วยละครแอ็คชั่นเรื่อง “City Hunter” แต่เรื่องไหนก็ไม่เปรี้ยงเท่า “Heirs” ที่มินโฮทุ่มสุดตัวขนาดซื้อเสื้อผ้าใส่เข้าฉากเอง ก่อนจะนำบางส่วนออกมาประมูลเพื่อหารายได้ทำการกุศล หล่อและใจบุญแบบนี้…ดังอีกนาน

คิมวูบิน (Kim Woo Bin)



ตัวร้ายดังที่สุดแห่งยุคจากบท “ชเวยองโด” หนุ่มแบดบอย หน้าร้าย มาดกวน ช้ำรัก ที่ได้ใจสาวน้อยสาวใหญ่ไปเต็มๆ ด้วยเห็นหน้านิ่งตาเข้มอย่างนี้ พอฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวทีไรคนดูตะ…ตะ… ตายทู้กที เดิมทีอูบินเริ่มงานด้วยการเป็นนายแบบอาชีพ ด้วยช่วงขาที่ยาวเหยียดบวกความสูง 188 ซม. และใบหน้าเก๋ไก๋ทำให้เขาเป็นนายแบบสุดฮ็อตในโซลแฟชั่นวีค ก่อนจะเบนเข็มมาเล่นละครอยู่หลายเรื่อง กระทั่งมาแจ้งเกิดเต็มตัวกับซีรีย์เรื่อง “School” และภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง “Friend 2” นอกจากจะกวาดรายได้กว่า 2 หมื่นล้านวอน ยังทำให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากแทบทุกเวที ปัจจุบันเขากำลังยุ่งกับการเดินสายไปร่วมงานแฟนมีตติ้งทั่วเอเชียที่สร้างปรากฏการณ์เต็มหมดทุกรอบ….ถึงร้ายก็รักสินะ

เรน RAIN (ชองจีฮุน)



“เรน” ดารานักร้องเกาหลีรุ่นบุกเบิกที่สร้างปรากฏการณ์เกาหลีฟีเวอร์ไปทั่วเอเชียจากซีรีย์รักกุ๊กกิ๊ก “Full House”ที่เล่นเอาสาวๆ ติดกันงอมแงมทั้งบ้านทั้งเมือง ก่อนจะมาปรากฏตัวในหนังฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์ “Ninja Assassin” ที่สร้างชื่อให้เรนเป็นที่รู้จักระดับโลก ด้านผลงานเพลงของเขาก็ดังระเบิดระเบ้อ อย่างอัลบั้ม “It’s Raining” ที่ขายได้มากกว่าล้านแผ่นทั่วเอเชียพร้อมทั้งกวาดรางวัลด้านดนตรีไปมากมาย ส่วนทัวร์คอนเสิร์ตทั่วเอเชียก็ทำสถิติเต็มหมดทุกรอบภายในเวลาอันรวดเร็ว สมศักดิ์ศรีแชมป์อันดับ 1 จาก 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก ปี 2012จากนิตยสารไทมส์

แทยัง (Taeyang)



หนุ่มหล่อหน้าตี๋ขวัญใจสาวฮิปทั่วภูมิภาค หนึ่งในสมาชิกวง Big Bang บอยแบนด์ระดับท็อปของเกาหลี แทยังเป็นหนึ่งในนักร้องที่ฝ่ากระแสดาราเข้ามาอยู่ในชาร์ตหนุ่มหล่อหลายโพลได้แบบม้ามืด แรกเริ่มเดิมทีเขาเป็นนักร้องนำในวงที่ออกจะพูดน้อยและขี้อาย มีดีที่เสียงร้องและลีลาท่าเต้นเสียมากกว่า แต่แล้วจู่ๆ เกิดปาฏิหาริย์อย่างไรไม่ทราบได้ แทยังลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองจนเซ็กซี่ ขี้เล่น ลีลาพริ้วไหว ยิ้มทีกระชากใจสาวๆ จนอยากลงไปกองแทบเท้า ส่วนผลงานเพลงเดี่ยวของเขานับวันก็ยิ่งหนักแน่นไปด้วยพรสวรรค์และคุณภาพจนคว้ารางวัลนักร้องยอดเยี่ยมมาแทบทุกปี เจ๋งแค่ไหน ก็แค่ยอดเข้าชมเพลง “I Need A Girl” ปาเข้าไป 32 ล้านกว่าวิวแว้ว

ชเวชีวอน (Choi Si Won)



ไอดอลหนุ่มหล่อมารยาทงามแสนเพอร์เฟ็คฉายา “ท่านชาย” ของเกาหลี พร้อมตำแหน่ง “หนุ่มในฝันของสาวทั้งประเทศ” และอันดับ 7 ของ 100 หนุ่มหน้าหล่อปี 2013 จากโพลของ The Independent Critics และ TC Candler เบียดดาราฝรั่งกระจุยกระจาย เพราะชายชีวอนนั้นเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ ด้วยเป็นทายาทตระกูลอภิมหาเศรษฐีเครือฮุนได-ซัมซุง ที่มีธุรกิจครบทั้งห้าง โรงแรม รถยนต์ ธนาคาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกพ่วงด้วยศักยภาพทางเทควันโดสายดำดั้งสี่ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เพราะรักในอาชีพสายบันเทิง เขาจึงก้าวเข้ามาเป็นนักร้องวง “ซูเปอร์ จูเนียร์” บอยแบนด์ระดับเทพของเกาหลีเจ้าของเพลงฮิตติดหู “Sorry Sorry” ก่อนจะมาร่วมแสดงหนังฮ่องกง เรื่อง “มหาบุรุษ กู้แผ่นดิน”ในบทเจ้าชาย Liang Shi ที่ฮ็อตมากเสียจนจีนต้องผลิตแสตมป์เป็นรูปชีวอนเลยทีเดียว

ท็อป (T.O.P Big Bang)



ท็อป หรือ “ชเวซึงฮยอน” คือ แร็พเปอร์เสียงเข้มฝีมือดีวง Big Bang ที่ฉีกภาพแร็พเปอร์เซอร์โหดไปจนหมดสิ้นด้วยความหล่อแบบเทพเรียกพี่ ดูดีหมดจรดสะอาดเนี้ยบนิ้ง แต่งกายมิดชิดชนิดหนึ่งปีโชว์ไหปาร้าแค่ 3 ครั้ง แต่กลับได้รับโหวตให้เป็น Hottest Sex Symbols ประจำปี 2013 จากนิตยสารโรลลิ่งสโตนฝั่งอเมริกา เอาชนะนักร้องดังอย่าง “จัสติน ทิมเบอร์เลค” และ “จัสติน บีเบอร์” มาเคียงคู่กับ “บริตนี สเปียร์ส” ที่ได้รางวัลเดียวกันในฝ่ายหญิงได้สำเร็จ จนกลายเป็นกระแสดังเปรี้ยงปร้างในโซเชียลเน็ตเวิร์ค เห็นทีอีกไม่นาน ชื่อของท็อปคงพุ่งไปอยู่ระดับอินเตอร์แน่นอน คนอะไร…ยิ่งเหนียมยิ่งดัง

อคแทกยอน (Ok Taecyeon)



“แทกยอน” สุภาพบุรุษจากเมืองบอสตันคนนี้ คือหนึ่งในแร๊พเปอร์ของบอยแบนด์ดัง 2PM เพื่อนร่วมวงของนิชคุณนั่นแหละ ด้วยหุ่นที่สูงปรี๊ดบวกกับหน้าตาคมคายและผิวสีแทน ทำให้เขาดูโดดเด่นจากไอดอลเกาหลีคนอื่นๆ แทกยอนเริ่มชิมลางงานละครเป็นครั้งแรกในเรื่อง “Cinderella’s Sister” และแจ้งเกิดเต็มตัวในละครวัยรุ่น “Dream High” ส่งผลให้เขามีงานละครต่อเนื่องเรื่อยมา นอกจากนี้เรียลิตี้โชว์เกี่ยวกับคู่รักจำเป็นสุดหวาน “We Got Married” ที่เขาประกบคู่กับ “Emma Wu” ก็เรียกคะแนนได้โขด้วยมาดสุภาพบุรุษนุ่มๆ ของเขานี่แหละ

ปาร์คยูชอน (Micky YooChun)



หนุ่มหน้ามึนแต่รวยเสน่ห์ อดีตสมาชิกวง “ดงบังชินกิ” บอยแบนด์เบอร์หนึ่งของเกาหลี ที่มีคุณภาพคับแก้ว ทั้งร้องเพลง เล่นเปียโน และยังแต่งเพลงไว้มากมาย แม้ปัจจุบันเขาจะออกมาฟอร์มวงใหม่ในนาม “JYJ” กับเพื่อนอีกสองคน ก็ยังคงมีแฟนเพลงติดตามอย่างเหนียวแน่น ก่อนจะหันมาจับงานละครจนได้รางวัลด้านการแสดงจากหลายสาขาในวงการโทรทัศน์ไปครอบครอง ส่วนปีนี้น่าจะเป็นปีแห่งการกลับมาของยูชอน เพราะละครเรื่องใหม่ “Three Days” เพิ่งออกอากาศเมื่อเดือนเมษายนนี้เอง แถมผู้กำกับยังเอ่ยปากชมว่ายูชอนสวมบทบอดี้การ์ดและเล่นบทแอ็คชั่นได้เก่งและเท่อย่างไม่น่าเชื่อ เห็นหน้าหวานยิ้มแพรวพราวแบบนี้ อดีตสายดำดั้ง 3 เทควอนโดนะครับ

คิมบอม (Kim Sang Bum)



หนุ่มหน้าหวานที่สาวหลายคนแอบติดอกติดใจกันสุดๆ จากบทหนึ่งในชายสี่หนุ่ม F4 “Boys over Flowers” ที่หล่อเด้งทะลุจอจนสูสีกับรัศมีพระเอก แม้เวลาจะผ่านมาแรมปี แต่หนุ่มคิมบอมก็ยังรักษาความหล่อไว้ได้ยืนยงคงกระพันจากซีรีย์อีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Hight Kick, East of Eden, Dream, และเรื่องล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว “Jung-Yi, Goddess of Fire” ก่อนจะเปิดตัวแฟนสาวคนล่าสุด “มุนกึมยอง” นางเอกหน้าแบ๊วตาแป๋วของคนเกาหลี ให้แฟนคลับกรี๊ดอิจฉาเล่น พร้อมลงรูปไปทัวร์ยุโรปสุดวี้ดวิ้วกันมา หล่อและจริงใจ…ยอม

ดาเนียล เฮนนี่ (Daniel Phillip Henney)



หนึ่งในดาราเกาหลีที่ดังไกลระดับอินเตอร์จากบท “เอเจนท์ ซีโร” ในหนังฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์ “X-Men Origins: Wolverine” ทำให้ตอนนี้เขากำลังเนื้อหอมในอเมริกาถึงกับมีแฟนคลับที่โน่นอย่างเป็นทางการ ตามมาด้วยงานจ่อคิวเพียบ ล่าสุดเห็นว่าได้รับเชิญให้ไปปรากฏตัวในซีรีส์เรื่อง “NCIS” และรับบทนำใน “Agatha”ละครดราม่าเรื่องใหม่ของช่อง ABC ดาเนียลเป็นดาราลูกครึ่งอเมริกันเกาหลีที่สร้างชื่อจากบทพระรองในละครเรื่อง My Lovely Sam Soon ที่อบอุ่นแสนดีจนเรียกเรตติ้งได้ไม่แพ้พระเอก ส่งให้เขากลายเป็นพระเอกเต็มตัวในอีกหลายเรื่องต่อมา รวมถึงหนังชีวิตเรื่อง “Father” ที่เขาคว้ารางวัลนักแสดงนำชายไปครอง ถือเป็นครั้งแรกที่มีนักแสดงต่างชาติคว้ารางวัลสาขานี้ไปได้

ปาร์คแทวาน (Park Tae Hwan)



นักว่ายน้ำทีมชาติร่างยักษ์ฮีโร่ของชาวเอเชีย ที่สร้างชื่อจากการคว้าเหรียญทองฟรีสไตล์ 400 เมตร และเหรียญเงินฟรีสไตล์ 200 เมตร ในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008 ทำสถิติเป็นนักว่ายน้ำชาวเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลว่ายน้ำฟรีไตล์ 400 เมตรได้ ส่งผลให้ชื่อของเขาติดอันดับ 6 บุคคลผู้มีชื่อเสียงของเกาหลีจากนิตยสารฟอส์บ แทวานเริ่มว่ายน้ำตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ก่อนจะเริ่มแข่งขันจริงจังเมื่ออายุ 7 ขวบพลางกวาดถ้วยรางวัลมาสะสมมานับแต่นั้น ปัจจุบันเขาดังจนได้เป็นฑูตทางวัฒนธรรมของเกาหลีในโปรเจ็คท์ ‘Dynamic Korea’

ลียองแด (Lee Yong Dae)



นักแบดมินตันหนุ่มใสกิ๊งวัย 25 ปี ที่เล่นแบดฯ มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ก่อนจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศด้วยการคว้าแชมป์เหรียญทองคู่ผสมโอลิมปิกปี 2008 ตอนอายุ 19 ปีตามมาด้วยเหรียญทองแดงจากชายคู่โอลิมปิกปี 2012 นอกจากเล่นกีฬาเก่งแล้ว ลียองแดยังแอบหน้าตาดี ส่งผลให้เขากลายเป็นซุปตาร์กลางคอร์ทแบดไปในทันที แม้ปีนี้ยองแดจะงานเข้าถูกแบนจาก BWF (Badminton World Federation)เป็นเวลา 1 ปีในข้อหาหลีกหนีการตรวจสารกระตุ้น แต่ทางสมาคมแบดมินตันเกาหลีใต้กำลังจะร้องขออุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก ว่ายองแดไม่ได้ตั้งใจหนีและไม่เคยใช้สารกระตุ้นแต่อย่างใด แต่ที่ไม่ได้ไปรับการสุ่มตรวจเพราะติดแข่งขันอยู่ต่างประเทศ…. มือหนึ่งของชาติต้องรักษาไว้สุดชีวิต

10 สุดยอดดาราเกาหลีที่ได้รับความนิยม


อันดับ 1 ของการสำรวจครั้งนี้ตกเป็นของ "เบ ยอง จุน" หรือที่แฟน ๆ ขนาน

นามเรียกว่า "Yonsama" โดยพระเอกชื่อดังวัย 35 ปี แจ้งเกิดมาจากภาพยนตร์

เรื่อง "Winter Sonata" ซึ่งเป็นผลงานที่ทำให้ เบ ยอง-จุน เป็นที่รู้จักของแฟน

ๆ ชาวเอเชีย จนถึงทุกวันนี้ ผลงานล่าสุดของเขาเป็นละคร

เรื่อง“Taewangsasingi” หรือ The Four Guardian Gods of the

King ที่ ณ ตอนนี้กลายเป็นละครที่มีเรตติ้งผู้ชมมากที่สุดในเกาหลี และเตรียมฉายใน

อีก 90 ประเทศทั่วโลก


 2.เรน 

    นักร้องหนุ่มสุดฮอตวัย 25ปี มีฐานแฟนเพลงอยู่ทั่วเอเชีย เรน หรือในชื่อจริงว่า

"จุง จี ฮุน" สร้างชื่ออันโด่งดังมาจากซีรีส์ "Full House" ซึ่งทำให้เขากลาย

เป็นดารายอดนิยมในเกาหลีและเอเชีย ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาเพิ่งได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตใน

หลายประเทศรอบโลก และตอนนี้ก็กำลังก้าวเข้าสู่วงการฮอลลีวูด กับภาพยนตร์ที่กำลัง

ถ่ายทำเรื่อง "Speed Racer"


3.ซอง ซึน - ฮัน 

    เกิดเมื่อปี 1976 ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ โดยผลงานที่

สร้างชื่อให้กับ ซอง ซึน ฮัน คือละครเรื่อง "Autumn Fairy Tale" ออกฉาย

ในปี 2000 และ "Summer Scent" และเพิ่งพ้นการเกณฑ์ทหารมาเมื่อเดือน

พ.ย.ปีก่อน ซึน ฮัน ที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ของการอยู่ในวงการแสดง 


4.ควอน ซัง - วู 

     ควอน ซัง วู เกิดที่เมืองแดจึน เกาหลีใต้ ปี 1976 โด่งดังมาจากภาพยนตร์

เรื่อง "My Tutor Friend" ในปี 2003 และละครซีรีส์เรื่อง "Stairway

 to Heaven"  ที่ได้แสดงร่วมกับนางเอกสาว "ชอย จี วู" ในระหว่างปี 2003-

2004 โดยก่อนที่จะมาเป็นนักแสดง เขาเป็นนายแบบมาก่อน ซึ่ง ซัง วู มีกิตติศัพท์ใน

เรื่องของรูปร่างที่บึกบึนเป็นเสน่ห์


 5.ยุน อึน - เฮ 

    ยุน อึน เฮ เป็นหนึ่งในดาราวัยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการบันเทิง

เกาหลี โดยอดีตเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป Baby V.O.X. ก่อนจะแจ้งเกิดใน

ฐานะนักแสดงที่ได้สวมบทบาทเป็นเจ้าหญิงในซีรีส์ "Princess Hours" ในปี

2006

    นางเอกสาววัย 23 ปี ยังมีผลงานตามมาอีกทั้งเรื่อง "The Vineyard

Man" และล่าสุด "Coffee Prince"  โดยเธอถูกคาดหมายไว้ว่าเป็นนัก

แสดงหญิงที่มีค่าตัวแพงที่สุด โดยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านวอน ต่อซีรีส์ 1 ตอน

Tokyo Ghoul Season 2

จากนิตยสาร Young Jump รายสัปดาห์ ได้มีการยืนยันว่ามังงะเรื่อง Tokyo Ghoul ที่เพิ่งจบไปจะมีภาคใหม่ ชื่อ Tokyo Ghoul:re ส่วนอนิเมะจะมีซีซั่น 2 ในเดือนมกราคม 2015

– Tokyo Ghoul ภาคมังงะจบในเล่มที่ 14 ซึ่งจะวางจำหน่ายในวันที่ 17 ตุลามคมนี้ มีการประกาศว่าภาคใหม่จะใช้ชื่อว่า Tokyo Ghoul:re เริ่มเขียนต่อภายในเดือนนี้โดยผู้เขียนคนเดิม คุณ Ishida Sui ส่วนตัวอย่างภาคใหม่มีเพียงตัวอย่างที่มีคนถ่ายมาเล็กน้อยเท่านั้นก่อนหน้านี้ ช่วงที่ฉายจบในญี่ปุ่น ที่เว็บไซต์ในประเทศจีนได้มีการเผยแถบข้อมูลของ Tokyo Ghoul Season 2 จะฉายมกราคม 2015 นี้ แต่ยังไม่มีการยืนยันในญี่ปุ่นว่าจะมีฉายจริง จนกระทั่งมีการยืนยันความจริงในวันนี้

สำหรับนิตยสาร Young Jump รายสัปดาห์เล่ม 46 ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น วันพฤหัสที่ 16 ตุลาคมนี้ แต่มีการเผยจากเว็บไซต์ต่างประเทศก่อนกำหนด

มังงะเรื่อง Tokyo Ghoul วาดโดย Ishida Sui กล่าวถึง คดีฆาตกรรมปริศนาในเมืองโตเกียว จากของเหลวที่พบในที่เกิดเหตุทำให้เชื่อว่ามาจากพวกกูลที่กินมนุษย์เข้าไป คาเนกิ เค็น นักศึกษามหาวิทยาลัย ได้มาพัวพันกับเรื่องของพวกกูลที่แตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้ ถึงจะรอดตายจากการโจมตีของกูลมาได้แต่ก็สภาพปางตาย ทีมแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือเขาอย่างสุดความสามารถและด้วยความบังเอิญระหว่างที่ช่วยชีวิตเขาโดยใช้อวัยวะภายในของกูล ทำให้เขาได้สัมผัสโลกของพวกกูลที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร





ประวัติโดราเอม่อน การ์ตูนยอดฮิตในญี่ปุ่น

โดราเอมอน หรือ โดเรมอน เป็นตัวละครจากการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เป็นหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคต ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 22เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2655 (ค.ศ. 2112)
ลักษณะตัวอ้วนกลมสีฟ้า (เมื่อแรกเกิดมามีสีเหลือง) ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูแทะ มีหน้าที่เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงซึ่งคนที่ซื้อโดราเอมอนมาคือเซวาชิเหลนชายของโนบิตะ
วันหนึ่งเซวาชิเกิดอยากรู้สาเหตุที่ฐานะทางบ้านยากจน จึงได้กลับไปในอดีตด้วยไทม์แมชชีน จึงได้รู้ว่าโนบิตะ (ผู้เป็นปู่ทวด) เป็นตัวต้นเหตุ เซวาชิจึงได้ตัดสินใจให้โดราเอมอนย้อนเวลา
ไปคอยช่วยเหลือดูแลเวลาโนบิตะโดนแกล้งโดยใช้ของวิเศษที่หยิบจากกระเป๋าสี่มิติ


ต้นกำเนิิดโดเรมอน

โดราเอมอนถูกผลิตขึ้นในโรงงานสร้างหุ่นยนต์ที่เมืองโตเกียว เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 (พ.ศ. 2655) แต่ในระหว่างการผลิตเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทำให้โดราเอมอน
มีคุณสมบัติไม่เหมือนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ต้องเข้ารับการอบรมในห้องเรียนคลาสพิเศษของโรงเรียนหุ่นยนต์ (และได้พบกับเพื่อนๆ แก๊ง ขบวนการโดราเอมอน ที่นั่น)
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในงาน "โรบ็อต ออดิชัน" ซึ่งเป็นงานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ได้ผ่านการอบรมแล้ว ด้วยความซุกซนของเซวาชิในวัยเด็ก
เขาจึงได้กดปุ่มเลือกซื้อโดราเอมอนมาไว้ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ โดราเอมอนจึงได้มาอยู่อาศัยที่บ้านของเซวาชิ ในฐานะของหุ่นยนต์เลี้ยงเด็ก (จากตอนพิเศษ "กำเนิดโดราเอมอน ปี 2112")
แต่ในต้นฉบับดั้งเดิมนั้นจะแตกต่างกัน คือ โดราเอมอนได้ถูกนำไปขายทอดตลาด เพราะเป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ จากนั้นพ่อแม่ของเซวาชิจึงมาซื้อโดราเอมอนไปไว้ที่บ้าน

แต่เดิมนั้นตัวโดราเอมอนมีสีเหลือง และมีหู แต่แล้วในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2122 ขณะที่โดราเอมอนหลับอยู่นั้น ใบหูก็โดนหนูแทะจนแหว่งไปทั้ง 2 ข้าง
และไม่สามารถซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้ หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หุ่นยนต์แมว "โนราเมียโกะ" แฟนสาวของโดราเอมอนก็มาเยี่ยม แต่พอทราบว่าโดราเอมอนไม่มีหู
เหลือแต่หัวกลม ๆ โนราเมียโกะถึงกับหัวเราะเป็นการใหญ่ ทำให้โดราเอมอนเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็พยายามทำใจด้วยการดื่มยาเสริมกำลังใจ แต่ว่าโดราเอมอนหยิบผิดกินยาโศกเศร้าแทน
ทำให้โศกเศร้ากว่าเดิม และเริ่มร้องไห้ไม่หยุด จนสีลอกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอย่าที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นโดราเอมอนจึงเกลียด และกลัวหนูเป็นอย่างมาก และไม่ค่อยมีความมั่นใจ
ในตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก

นอกจากนั้น โดราเอมอนยังมีน้องสาวชื่อโดรามี ที่จริงก็แค่ใช้เศษเหล็กแบบเดียวกันในการผลิต แต่โดเรมีใช้น้ำมันรุ่นใหม่ ขณะที่ผลิตโดราเอมอนอยู่ได้ทำชิปหล่นหายไป 1 ส่วน
จึงทำให้หยิบของวิเศษผิดพลาดบ่อยๆ

Love live School idol

https://www.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2Fwww.youtube.com%2Fwatch%3Fv%3Dn2DCjjUwyaY&h=gAQG9JUyI

แกล้งคนของ ญี่ปุ่น


10 สุดยอดซีรี่ย์เกาหลี

1. Autumn in My Heart  (รักนี้ชั่วนิรันดร์)

 เป็นซีรี่ย์เกาหลีเรื่องแรกๆที่นำมาฉายในประเทศไทยเลยก็ว่าได้และยังได้รับความนิยมสูงสุด นำ
กลับมาฉายใหม่อีกกี่ครั้งก็ยังสามารถเรียกเรตติ้งจากคอละครได้เช่นเดิม ละครนำเสนอเรื่องราวของ
พรหมลิขิตและความรักอันอบอุ่นระหว่างพี่ชายและน้องสาวที่ต้องฟันฝ่าเหตุการณ์อันเลวร้ายต่างๆ
ไปร่วมกัน


ความสำเร็จของละครเรื่องนี้ทำให้ดารานำของเรื่องอย่าง ซงซึงฮอนและซงเฮคโย ได้รับรางวัล
นักแสดงชายและนักแสดงหญิงที่ได้รับความนิยมสูงสุด จากงานประกาศรางวัล KBS DRAMA
AWARDS 2000 และยังทำให้ วอนบิน ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีเดียวกัน
รวมถึงรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงานประกาศรางวัล Baek-Sang Award ปี 2000
ไปอีกด้วย


 2. My Girl ( รักหมดใจ…ยัยกะล่อน )


   ละครแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ดูสนุก เรื่องราวของ จูยูริน เด็กสาวยากจนที่มีความสามารถพิเศษใน
การ
เอาตัวรอดเป็นเลิศ เพราะต้องหนีเจ้าหนี้ของพ่อที่ไล่ตามทวงเงินจนจับพลัดจับผลูได้รู้จักกับ
โซลกองชาน
เศรษฐีหนุ่มเจ้าของโรงแรมผู้ชาญฉลาดที่เกาะเชจู คุณปู่ที่กำลังป่วยหนักของ
โซลกองชานต้องการพบกับหลานสาวที่หาย ไปในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นก่อนตาย กองชาน
จึงต้องพยายามสืบหาน้องสาวที่หายไปแต่ก็ยังหาไม่เจอ สุดท้ายจึงวางแผนให้ยูรินปลอมตัวมาเป็นญาติ
ผู้น้องในระหว่างที่ยังหาหลานสาวตัวจริงไม่พบ หลังจากยูรินเข้ามาในบ้านก็เกิดเรื่องราววุ่นๆมากมาย
เรียกได้ว่าถูกใจคอละครที่ชอบความสนุกสนานด้วยเนื้อเรื่องที่ดูแล้วเบาสมอง ไม่แปลกที่จะได้รับความ
นิยมอย่างมาก นำแสดงโดย อีดงอุคและอีดาเฮ ที่แสดงเข้ากันซะจนแฟนๆแอบลุ้นให้ทั้งคู่รักกันจริงๆ
ไปเลยทีเดียว ร่วมด้วยนักแสดงหนุ่มหน้าหวาน อย่างอีจุนกิ และนักแสดงสาวปาร์คชียอน


3. WINTER LOVE SONG (เพลงรักในสายลมหนาว)

  ซีรี่ย์โรแมนติกสุดประทับใจ หนึ่งในผลงานเรื่องเยี่ยมของ ยุนซุกโฮ ผู้กำกับ 4 ฤดู รักครั้งแรกแค่
คิดถึงคำพูดนี้ ก็ทำให้หัวใจเต้นแรง ความรักครั้งแรกดูเหมือนว่าจะมีความหมายบางอย่าง ซึ่งใสบริสุทธิ์
และอยากที่จะสัมผัส แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราอาจจะลืมมันไป อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อรักครั้งแรกตายจากไปและ
อะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ เมื่อคนรักครั้งแรกของคุณซึ่งจากกันไปเกือบ 10 ปี มาอยู่ใกล้ๆอีกครั้ง ในเวลาที่
คุณจะแต่งงาน คำว่าเพื่อนอาจเป็นใครคนหนึ่งในความทรงจำของคุณและจะบอกให้รู้ว่า อะไรคือความ
จริงและความเป็นมิตรแท้ ซึ่งสามารถจะไว้ใจและให้ความรักซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนาน
ก็ตาม


   ด้วยบทบาทการแสดงอันยอดเยี่ยมในเรื่องนี้ก็ทำให้ เบยองจุน คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
จากการประกาศรางวัล KBS Drama Awards 2002 พร้อมรางวัลนักแสดงนำชายยอดนิยมจาก Baeksang
Awards 2002 และยังทำให้ ชเวจีวู นักแสดงสาวฉายา “เจ้าหญิงจีวู” ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอด
เยี่ยมจากงาน KBS Drama Awards 2002 ไปด้วยเช่นกัน


4. Coffee Prince (รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ)


   ต่อกันด้วยละครคอมเมดี้ น่ารักๆ เรื่องราวของสาวหล่อ โกอึนชาน หลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตไป
แต่แม่ของเธอยังคงชอบใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนกระทั่งเป็นหนี้ และยังมีน้องสาวที่ต้องคอยดูแล โกอึนชานจึง
ตัดสินใจทิ้งความสวยงาม เปลี่ยนภาพลักษณ์จากหญิงสาว มาเป็นชายหนุ่มเพื่อดูแลครอบครัว หลังจาก
เกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้ ชเวฮันคยูล เข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้ชายจริงๆ โคอึนชันจึงได้เข้ามาเป็น
พนักงานในร้านกาแฟชื่อ Coffee Prince และเริ่มตกหลุมรักเจ้านายอารมณ์ร้ายอย่าง ชเวฮันคยูล ซึ่งเขา
เองก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆแต่ว่าเขาไม่เชื่อว่าความรู้สึกเหล่านี้คือความรัก เพราะคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย
มาตลอด ทำให้เขาคิดไปเองว่าตัวเองกลายเป็นพวกลักเพศ ทางด้าน โกอึนชานก็บอกเขาไม่ได้ว่าที่
แท้จริงเธอเป็นผู้หญิง นำแสดงโดย กงยูและนางเอกสาว ยุนอึนเฮ ซึ่งตอนนี้ True Vision ได้ทุ่มทุนซื้อ
ลิขสิทธ์ละครเรื่องนี้และนำมารีเมกใหม่ ต้องมาติดตามดูกันว่า Coffee Prince เวอร์ชั่นประเทศไทยจะสนุก
สู้เวอร์ชั่นเกาหลีได้หรือเปล่า


5. Full House (สะดุดรักที่พักใจ)

  ซีรี่ย์เกาหลีแนวโรแมนติกคอมเมดี้สุดฮิต ที่สร้างจากการ์ตูนยอดนิยมของวอนซูยอน เป็นเรื่องราวของ
ฮันจีอุนที่มีความฝันที่จะเป็นนักเขียนนวนิยายชื่อดังด้วยความไว้ใจที่มีต่อเพื่อน จึงทำให้เธอต้องเสียบ้าน
Full House ที่รักมากที่สุดไปให้กับลียองเจ ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังและแล้วเรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อจีอุน
ต้องการบ้านคืน เธอยอมตกลงทำงานบ้านให้ยองเจเพื่อแลกกับกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้คืนมา เรื่องราว
น่าจะจบลงถ้าไม่เป็นเพราะยองเจไปหลงรัก คังฮีวอน เพื่อนสมัยเด็กแต่เธอกลับไม่สนใจตอบรักเขา
ยองเจจึงประชดด้วยการทำสัญญาคืนบ้านให้กับจีอุนเสีย โดยมีข้อแม้ว่าเธอต้องยอมแต่งงานกับเขา
เหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะนำความอบอุ่นมาสู่คนทั้งสอง แต่กลับต้องวุ่นวายสุดแสนชุลมุน ทุกสิ่งทุกอย่าง
เกิดขึ้นภายในบ้านหลังนี้ที่ชื่อ Full House ละครเรื่องนี้สร้างชื่อให้กับพระนางของเรื่องอย่างเรนและ
ซงเฮคโยจนโด่งดังไปทั่วเอเชีย โดยในละครเรื่องนี้มีบางฉากที่ลัดฟ้ามาถ่ายทำในประเทศไทยอีกด้วย


   หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากภาคแรก ล่าสุดซีรี่ย์ยอดนิยมเรื่องนี้กำลังจะมีภาค 2 โดย
Full House 2 นั่นได้เผยรายชื่อนักแสดงนำออกมาแล้ว โดยมีสามนักแสดงหลักอย่าง โนมินอู ฮวางจองอึม
และปาร์คกีอุง แฟนๆต้องรอชมกันแล้วว่าจะสนุกเหมือนภาคแรกหรือไม่โดยมีคิวจะออกอากาศเร็วๆนี้



6. I’m Sorry, I Love You (ขอโทษครับ … ผมรักคุณ)

    เล่าเรื่องราวความรักและชีวิตที่แสนเศร้า ของชายหนุ่มที่ชื่อ ชามูฮยอค ที่ถูกทอดทิ้งมาตั้งแต่เล็ก
ได้รับการอุปการะจากครอบครัวชาวออสเตรเลีย เขารอดตายจากการถูกลูกกระสุนยิงเข้าที่ศีรษะ
หลังจากที่เขาไปร่วมงานแต่งงานของคนรักเก่า ชามูฮยอคตั้งใจกลับเกาหลีเพื่อตามหาแม่แท้ ๆซึ่งเข้าใจ
มาโดยตลอดว่าแม่ทิ้งเขาเพราะความยากจน แต่เมื่อได้พบทั้งแม่แท้ๆ ที่กลายเป็นดาราดังและน้องชายที่
เป็นนักร้องยอดนิยมและมีฐานะร่ำรวย ความคิดดีๆของเขาเริ่มแทนที่ด้วยความเกลียดชังและความแค้น
ที่ต้องการการชดใช้ จึงอาสาเป็นผู้จัดการส่วนตัวโดยมีเจตนาไม่ดีแอบแฝงคือต้องการแย่งชิงทุกอย่าง
ที่เป็นของรักของน้อง ไม่เว้นแม้กระทั่ง ซงอึนเช หญิงสาวคนสนิทของน้องที่ก่อนหน้านั้นเขาเคย
ช่วยชีวิตเธอไว้จากพวกนักเลงในออสเตรเลียนั่นเอง ผู้ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาและทำให้เขา
ได้รู้จักความหมายของคำว่ารักอีกครั้ง




 7. LOVE STORY IN HARVARD (กฎหมายรักฉบับฮาร์วาร์ด)


    ซีรี่ย์แนวรักโรแมนติกเข้มข้นที่เคยสร้างความประทับใจสูงสุดในประเทศเกาหลีมาแล้ว เรื่องราว
ความรักระหว่างหนุ่มนักศึกษาวิชากฎหมายที่ทุกห้องหัวใจเต็มไปด้วยพลังแห่งความรักอย่าง คิมฮอนวู
กับ ลีซูอินสาวนักศึกษาแพทย์ที่มีอุดมการณ์แกร่งกล้า เรื่องเริ่มต้นจากความเข้าใจผิดของฮอนวูที่คิดว่า
ซูอินเป็นผู้หญิงเกาหลีที่บินมาขายบริการ แต่เขาก็พบความจริงว่าซูอินก็เป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกหัดของ
ฮาร์วาร์ดเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีเธอจึงต้องทำงานพิเศษเพื่อแบ่งเบาภาระของ
ครอบครัว สัมผัสปรากฏการณ์รักครั้งใหม่ที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศสวยงามและมนต์เสน่ห์ของ
ฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
นำแสดงโดย คิมแรวอนและนางฟ้าเกาหลี คิมแทฮี




8. All About Eve (สงครามแห่งความรัก)

ซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามออกฉายเมื่อปี 2000 เรื่องราวของ ฮอยองมี และ จินซันมี
หญิงสาว 2 คน ที่ใฝ่ฝันจะเป็นผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ พวกเธอสองคนจึงต้องต่อสู้ แข่งขันเพื่อ
ก้าวไปสู่จุดหมายนั้นซึ่งในการแข่งขันของพวกเธอไม่ใช่เพียงการแข่งขันเพื่อความฝัน แต่ยังรวมถึง
การแข่งขันเรื่องหัวใจด้วย ฮอยองมียอมทำทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงจุดที่ต้องการ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรที่
เลวแค่ไหน ในขณะที่จินซันมี นั้นมีใจที่มุ่งรักในงานอย่างแท้จริงทำให้ชนะใจทุกคน ละครเรื่องนี้ไม่ได้
เน้นเรื่องราวความรักอย่างเดียว แต่ยังทำให้ผู้ชมลุ้นไปกับการทำงานของทั้งสองคนอีกด้วย นำแสดง
โดย จางดงกอน ปาร์คแชริม คิมโซยอนและฮันแจซอก


9. Oh Dal Ja’s Spring (รักด่วนๆขบวนสุดท้าย)

  ด้วยความดังของซีรี่ย์เรื่องนี้จึงถูกนำไปดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นจีน ซึ่งนำแสดงโดยดาราหนุ่ม
จางฮยอก
ซึ่งก็เรียกเรตติ้ง กว่า 40 % จากคนดูอันดับหนึ่งในประเทศจีน หลังจากที่ออกฉายได้เพียง
สามวันเท่านั้น


   เป็นเรื่องราวของหญิงโสดวัย 33 ปีที่ชื่อ ดัลจา ซึ่งเป็นช่วงอายุหัวเลี้ยวหัวต่อในการตัดสินใจว่า
จะแต่งงานหรือจะครองตัวเป็นโสดไปจนแก่ รักสามเส้าของดัลจา กับแทบง ชายหนุ่มผู้ซึ่งอ่อนกว่า
ดัลจามากถึง 6 ปี ที่ถูกเธอใช้ให้เขาปลอมตัวเป็นแฟนปลอมๆ และคีจุงผู้ชายที่ใช้สติในการเลือก
คู่ครอง
เป็นอย่างมาก ละครเรื่องนี้มีจุดเด่นคือเรื่องงานและชีวิตของหญิงสาววัย 30 โดยเล่า
ผ่านตัวละครที่
ชื่อดัลจา ซึ่งเธอเป็นผู้จัดการที่มีความสามารถของรายการทีวีโฮมช็อปปิ้ง
สำหรับละครเรื่องนี้
มีเป้าหมายในเรื่องความสนุกสนานและเหมือนเป็นติดตามชีวิตของ
หญิงสาวโรแมนติกวัยประมาณ
สามสิบว่าเธอใช้ชีวิตอย่างไร นำแสดงโดย ปาร์คแชริม
อีมินกิ และอีฮยอนวู



 10. IRIS (นักฆ่าล่าหัวใจเธอ)

   นับว่าเป็นละครฟอร์มยักษ์ทุนสร้างกว่า 2 หมื่นล้านวอน (643 ล้านบาท) ถ่ายทำกันในหลาย
ประเทศ
ไม่ว่าจะเป็น จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น อเมริกา และประเทศอื่นๆท่ามกลางความสนใจในทีม
นักแสดง
เรื่องนี้
ไม่เฉพาะแต่ในเกาหลีเท่านั้น แต่ต่างชาติก็ยังได้ให้ความสนใจอีกด้วย ละคร
เรื่องนี้กล่าวถึง 2 สุดยอดสายลับแห่งองค์กร National Security System (NSS) ของเกาหลีใต้นาม ฮยอนจุนและซาวู ทั้งคู่เป็นสุดยอดสายลับที่เก่งที่สุดในองค์กรแห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นคู่หูคู่ซี้ ทั้งคู่ได้สาบาน
เลือดต่อกัน
ว่าจะเป็นพี่น้องและเป็นมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป แต่มิตรภาพของทั้งสอง
ก็เริ่ม
บั่นทอนเมื่อไปตกหลุมรัก ซังฮี พร้อมๆกัน แต่ซังฮีกลับไปมีใจให้กับฮยอนจุน ซึ่งทั้งคู่ก็ได้แอบปกปิดและคบกันแบบเงียบๆ ฝ่ายซาวูเองก็ได้แต่เก็บงำความรักที่มีต่อซังฮีไว้
เพื่อรักษามิตรภาพ
ต่อมาหัวหน้าหน่วยงานลับ NSS ได้มอบภารกิจลับให้ ฮยอนจุนไปปฏิบัติ
แต่เพียงลำพัง เมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นระหว่าง
ที่เขาหลบหนี
ออกมา
กลับได้รับอันตราย
แต่เขาก็ได้รับการช่วยเหลือจาก ซังฮี ซึ่งแกะรอยและได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว ฮยอนจุนโดนเพื่อน
รักอย่างซาวูหักหลังเข้าให้แล้ว IRIS จัดเป็นละครที่วางแนวทางหลักคือ แอ็คชั่น ทรยศ และความรักของตัวละครหลักทั้ง 6 คนประกอบไปด้วย อีบยองฮอน, คิมแทฮี, จองจุนโฮ,
คิมซึงอู, คิมโซยอน และท็อป จากวงบิ๊กแบง