วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วัดนาริตะ ซัน
วัดอาซากุสะ คันนอน และ ถนนนาคามิเซะ
วัดอาซากุสะคันนอน ในสมัยก่อนนั้นใช้เป็นที่สักการะ ขอพรจากเทพเจ้าคันนอนจากเหล่าซามูไรและโชกุน และพรก็มักจะประสบผลอยู่เสมอ ทำให้เหล่าโชกุนและเหล่าซามูไรมีความเลื่อมใสในวัดแห่งนี้เป็นอย่างมาก การสักการะบูชาเทพเจ้าคันนอนนั้น ก่อนอื่นต้องชำระร่างกายให้สะอาดด้วยกระถางน้ำด้านข้างของอาคาร และจุดธูปไปปักไว้กระถางธูปขนาดใหญ่ตรงกลางวัด ซึ่งเป็นความเชื่อว่า ถ้าได้รับกลิ่นควันธูปนี้ติดตัวมา จะโชคดีมีสุข ส่วนอื่นก็จะมีการทำบุญไหว้พระ ด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง (เขาว่ากันว่า ถ้าโยนเหรียญแล้วเหรียญไม่โดนไม้ที่กั้นอยู่ คำอธิฐานของเราจะเป็นจริง ดังนั้นชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะค่อยๆ ปล่อยเหรียญลงไป ไม่โยน) แล้วตบมือเบาๆ 2 ครั้ง และอธิษฐานเป็นอันจบพิธีไหว้พระแบบญี่ปุ่น
จุดเด่นของวัดอาซากุสะคันนอน นั่นก็คือโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ ที่แขวนอยู่ที่บริเวณประตู “คามินาริมง” หรือ ประตูฟ้าฟาด ทั้งสองข้างของโคมแดงจะเป็นรูปปั้นของ 2 ผู้รักษาประตู ได้แก่ ฟูจิน เจ้าแห่งสายลม และ ไรจิน เจ้าแห่งสายฟ้า วัดอาซากุสะยังมีเครื่อง รางต่างๆ ให้เราบูชาอีกมากมาย รวมทั้งร้านของที่ระลึก ร้านขนมญี่ปุ่นให้ท่านทำการช็อปปิ้งอีกด้วย
ย้อนเวลาสัมผัสชีวิตชาวญี่ปุ่นในอดีตที่หมู่บ้านอิยาชิ โนะ ซาโตะ
หมู่ บ้านอิยาชิ โนะ ซาโตะ นั้นเดิมทีเป็นหมู่บ้านของชาวนา โดยเน้นการทำการเกษตรแบบพอเพียงเป็นหลัก ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำไซโกะ ณ เชิงภูเขาไฟฟูจิ
ในปี 1966 หมู่บ้านแห่งนี้ถูกดินถล่มทับ 40 ปีต่อมาได้ถูกสร้างและบูรณะใหม่ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ out door ที่แสดงให้เห็นถึงวิธีชีวิต อาชีพการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆด้วยมือ ของชาวญี่ปุ่นยุคโบราณ บ้านลักษณะเก่าแก่กว่า 20 หลังถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านค้า พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่น่าสนใจคือบ้านที่รับถ่ายรูป ยังมีบริการชุดกิโมโนและชุดซามูไรไว้ให้คุณได้ใส่ ถ่ายไปลงเฟสบุคเท่ๆอีกด้วย ซึ่งผู้ที่มาทัวญี่ปุ่น โตเกียว ควรแวะมาที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นอย่างยิ่งเพื่อจะได้สัมผัสกับความเป็น ญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และซื้อสินค้าทำมือเอกลักษณ์เฉพาะของชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนติดไม้ติดมือกับมา ฝากเพื่อนหรือญาติที่เมืองไทย
อุทยานฮาโกเน่ ล่องเรือโจรสลัดทะเลสาบอาชิ , แวะหุบเขานรกโอวาคุดานิ
อุทยานฮาโกเน่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ท่านต้องมาสัมผัสให้ได้หากได้มาเที่ยวญี่ปุ่น อุทยาฮาโกเน่นั้นอยู่ไม่ไกลนักจากโตเกียว ห่างจากกรุงโตเกียวไม่ถึง 100 กิโลเมตร อุทยานฮาโกเน่มีชื่อเสียงโด่งดังมากจาก บ่อน้ำพุร้อนที่มีกระจ่ายอยู่ทั่วอุทยานแห่งนี้ แถมท่านยังสามารถชมวิวอันสวยงามของภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจนได้จากอุทยานฮาโก เน่ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นอุทยาฮาโกเน่ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น โอวาคุดานุเป็นจุดที่อยู่ที่พื้นที่ที่มีการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อ 3000 ปีก่อน เป็นจุดที่มีน้ำพุร้อนและแม่น้ำที่มีน้ำร้อนๆให้ได้สัมผัสกัน แถมยังเป็นจุดที่ยอดเยี่ยมในการชมวิวของภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆจุดที่น่าสนใจของอุทยานแห่งนี้ เช่น อุทยานกลางแจ้ง, แมน้ำอชิโนกะ, พิพิธภัณฑ์โพล่า, สวนพฤกษาฮาโกเน่ และอีกหลายๆที่ เรียกว่าเที่ยวกันวันเดียวคงไม่ครบแน่ๆ หากท่านมากับเที่ยวญี่ปุ่นของทางวันเดอร์ฟูรับรองว่าท่านจะได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าในอุทยานฮาโกเน่อย่างแน่นอน
- ล่องเรือโจรสลัดผ่านทะเลสาบอาชิ ทะเลสาบที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อ 3000 ปีที่แล้ว เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจมากๆหากคุณได้ไปเที่ยวอุทยานฮาโกเน่ที่ โตเกียว
- โอวาคุดานิ หรือ หุบเขานรก ภูเขาไฟที่ยังครุกรุ่นรอการปะทุ มีบ่อน้ำพุหลายจุดในบริเวณนี้ แถมยังมีกลินอายของกำมะทันจากไอน้ำหละควันที่มาจากบ่อน้ำพุร้อนในบริเวณนี้ อีกด้วย แถมในหุบเขานรกนี้ยังมีเรื่องเล่าขานกันว่า หากนำไข่ไปต้มจนกลายเป็นสีดำและได้กินไข่ใบนั้น จะทำให้อายุยืนขึ้นถึง 7 ปี
ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ณ ฟุระโนะ
ฮอกไกโด
โดยมี เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นเมืองหลวงของฮอกไกโด ซึ่งในซัปโปโรมี สวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาชมงานในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ ยังมีหอนาฬิกาอันเก่าแก่ และที่ว่าการเมืองฮอกไกโด อีกทั้งย่านร้านค้าซุซุกิโนะ ซึ่งเป็นศูนย์การค้า และแหล่งจับจ่ายซื้อของที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้
เมืองฮะโกะดะเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญ ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของฮอกไกโด ในยามเช้าสามารถเที่ยวตลาดสดขายอาหารทะเลสด ๆ ที่มีให้ชิม ยามสายเที่ยวชมโบสถ์ และป้อมปราการโบราณในเมือง ยามเย็นนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนเขาฮะโกะดะเตะ ชมทิวทัศน์ยามราตรีที่สวยงามได้รอบทิศ ด้านเมืองอะซะฮิกะวะ (Asahikawa) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟด่วนจากเมืองซัปโปโร และจากเมืองอะซะฮิกะวะไปทางตะวันออกจะมี อุทยานแห่งชาติไดเซะทสุซัง ซึ่งมี บ่อน้ำแร่โซอุนเกียว ให้เพลิดเพลินในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมีธรรมชาติอันสวยงามที่เป็นชายฝั่งทะเลใกล้ เมืองอะบะชิริ (Abashiri) มีธารน้ำแข็งให้ชมในฤดูหนาว และ คาบสมุทรชิเระโตะโกะ (Shiretoko) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วย อีกทั้งทะเลสาบอะคัง ทะเลสาบมาชูและ ทะเลสาบคุชิโระ และทางตะวันตกของฮอกไกโดมีเมืองโอะตะรุ (Otaru) เป็นเมืองท่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองค้าขาย ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 รอบ ๆ เมืองจะมีคลองโอะตะรุ เป็นโบราณสถาน แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยบุกเบิก มีถนนร้านซูชิที่สดที่สุดในโลกให้ลองลิ้มชิมรส
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิราคาวาโกะ
ศาลเจ้าฟูชิมิอินารี
ตั้งแต่ยุคโบราณ ชาวญี่ปุ่นนับถือเทพอินะริในด้านการอุปถัมภ์ค้ำชูและส่งเสริมความเจริญในการงานและกิจการ ซึ่งความศรัทธานี้ยังคงอยู่จนตราบจนปัจจุบัน บรรดาเสาโทะริอิที่มากมายของศาลเจ้าแห่งนี้นั้น ล้วนเป็นศรัทธาจากบริษัท, ห้างร้าน, โรงงานในญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละต้นจะมีการจารึกผู้บริจาคไว้
ศาลเจ้าแห่งนี้ถือเป็นศาลใหญ่ (大社 ไทฉะ) อันเป็นต้นสังกัดของบรรดาศาลเจ้าลูก (分社 บุนฉะ) ที่บูชาเทพอินะริ ซึ่งทั่วประเทศญี่ปุ่นมีอยู่กว่า 32,000 แห่ง [2]
ศาลาใหญ่ (ไฮเด็ง)
จุดเริ่มต้นของทางวงกตโทะริอิ
ประวัติ
ต้นยุคเฮอัง ศาลเจ้าฟุชิมิ อินะริ อยู่ภายใต้พระราชูปถัมภ์ขององค์จักรพรรดิ ใน พ.ศ. 1508 จักรพรรดิมุระกะมิ ทรงบัญชาให้มีการขึ้นบัญชีเหตุการณ์สำคัญของเทพารักษ์แผ่นดิน ซึ่งในบัญชีนี้ ในขั้นต้นกล่าวถึงศาลเจ้า 16 แห่ง ซึ่งศาลเจ้าฟุชิมิ อินะริ ก็เป็นหนึ่งในนั้น[3]
ในยุคจักรวรรดิญี่ปุ่น ศาลเจ้าฟุชิมิ อินะริ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งใน คันเป-ไทฉะ (官幣大社) หมายถึงศาลเจ้าเอกซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลพระจักรพรรดิ[4]
ปราสาทนิโจ
เมืองนะโงะยะ
ซัปโปะโระ
ซัปโปะโระ (ญี่ปุ่น: 札幌 ซัปโปะโระ ?; ไอนุ: サッ ・ポロ ・ペッ ซัตโปโรเพต) เป็นศูนย์กลางของกิ่งจังหวัดอิชิกะริ ในจังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางความเจริญของเกาะ และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ และเป็นหนึ่งในเมืองใหม่ที่สุดในญี่ปุ่น มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน แต่เมื่อปี ค.ศ. 1857 (พ.ศ. 2400) มีประชากรยุคบุกเบิกเพียง 7 คน
ในช่วงต้นของยุคเมจิ ขณะนั้นเพิ่งเริ่มก่อตั้งเขตการปกครองฮกไกโด และซัปโปะโระถูกเลือกเป็นศูนย์กลางการจัดการและพัฒนา ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา ทำให้ซัปโปะโระถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานแบบอเมริกาเหนือ จึงมีการสร้างระบบถนนแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ซัปโปะโระเคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน โอลิมปิกฤดูหนาว 1972 โดยในปัจจุบันมีชื่อเสียงเป็นเมืองท่องเที่ยว ร้านบะหมี่ญี่ปุ่นหรือราเม็ง โรงเบียร์ซัปโปะโระ และเทศกาลหิมะซัปโปะโระที่จัดขึ้นทุกปีราวเดือนกุมภาพันธ์
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของซัปโปะโระ คือภูเขา โมะอิวะ เป็นยอดเขาสูง 531 เมตร [1] ที่เป็นจุดชมวิวของเมือง ที่เดินป่า ดูนก และลานสกี (Ski Jo)ในฤดูหนาว
โคเบะ
โคเบะ (ญี่ปุ่น: 神戸市 Kōbe-shi ?) หรือ โกเบ เป็นเมืองเอกของจังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับที่ 5 และเป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของเกาะฮนชู ห่างจากเมืองโอซะกะไปทางตะวันตกประมาณ 30 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 1.5 ล้านคนและเป็นส่วนหนึ่งของมหานครเคฮันชิง
โคเบะปรากฏในหลักฐานลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรกในพงศาวดารนิฮงโชะกิที่กล่าวถึงการก่อตั้งศาลเจ้าอิกุตะโดยพระจักรพรรดิจิงกูเมื่อ ค.ศ. 201[2] โคเบะไม่มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากนัก แม้แต่เมื่อครั้งที่ท่าเรือโคเบะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะในสมัยเอะโดะ จนกระทั่งมีการก่อตั้งเมืองขึ้นในปี ค.ศ. 1889 ในชื่อเมือง "คันเบะ" (神戸) เพื่อระลึกถึงผู้บริจาคในการสร้างศาลเจ้าอิกุตะ[3] จากนั้น ในปี ค.ศ. 1956 รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดตั้งให้โคเบะเป็นหนึ่งในเมืองของประเทศที่มีเขตการปกครองรูปแบบพิเศษ
โคเบะเป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่นที่มีการค้าขายกับทางประเทศตะวันตกนับตั้งแต่การยกเลิกนโยบายปิดประเทศ ในปี ค.ศ. 1995 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้เมืองโคเบะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ก็สามารถซ่อมแซมบูรณะจนกลายมาเป็นเมืองท่าที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งได้ บริษัทหลายๆแห่งได้ตั้งสำนักงานใหญ่ที่โคเบะ และเมืองนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของเนื้อโคเบะอีกด้วย
ซูว็อน
ฮะโกเนะ
จากการสำรวจในปี 2003 เมืองนี้มีประชากร 14,872 คน และมีความหนาแน่นของประชากรเท่ากับ 160.22 คนต่อตารางกิโลเมตร โดยมีเนื้อที่ทั้งหมด 92.82 ตารางกิโลเมตร
การท่องเที่ยว
เมืองฮาโกเนะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศเดินทางมาเพื่อพักผ่อนตามรีสอร์ทและสปา หรือเพื่อเยี่ยมชมทิวทัศน์ภูเขาที่รายรอบเมือง
ภายในอุทยานแห่งชาติฟูจิ ฮาโกเนะ อิสุ ซึ่งมีอาณาเขตอยู่รอบๆทะเลสาบอาชิ มีชื่อเสียงในด้านแหล่งสปาน้ำพุร้อนซึ่งเกิดจากความร้อนของภูเขาไฟ รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม
สถานที่น่าสนใจอื่นๆ ยังมีหุบเขาน้ำเดือด และศาลเจ้าฮาโกเนะที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอาชิ ในเดือนเมษายนจะมีดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มสวนในศาลเจ้า
วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ปราสาทฮิเมะจิ
ปราสาทโอซะกะ
วัดโท
เมืองควังจู
ศาลเจ้ายะซะกะ
วัดเบียวโด
วัดเท็นริว
เมืองแทงกู
วัดเซ็นโซ
เมืองคย็องจู
- คย็องจูเมือง ใน ประเทศเกาหลีใต้
- คย็องจู เป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญในประเทศเกาหลีใต้ มีประชากรประมาณ 269,343 คนและมีความสำคัญในประวัติศาสตร์เกาหลี อย่างมาก เนื่องจากเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรซิลลาและอาณาจักรรวมซิลลา วิกิพีเดีย
- พื้นที่: 1,324 ตร.กม.
- เวลาท้องถิ่น: วันพฤหัสบดี 14:21